Sorafenib (โซราฟีนิป)

Sorafenib (โซราฟีนิป)

trang cá cược xổ số 

Sorafenib (โซราฟีนิป) เป็นยาเคมีบำบัด ออกฤทธิ์ช่วยชะลอและยับยั้งการเกิดหรือการกระจายของเซลล์มะเร็ง นำมาใช้รักษามะเร็งตับ มะเร็งไทรอยด์ และมะเร็งของเนื้อเยื่อไต นอกจากนี้ อาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์

trang cá cược xổ số Liên kết đăng nhập

ยา Sorafenib มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ

เกี่ยวกับยา Sorafenib

กลุ่มยา ยาเคมีบำบัด
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ รักษามะเร็งตับ มะเร็งไทรอยด์ และมะเร็งของเนื้อเยื่อไต
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยารับประทาน

คำเตือนในการใช้ยา Sorafenib

  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยาหากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ และแพ้ยาชนิดอื่น อาหาร หรือสารใด ๆ
  • ห้ามใช้ยาหากเป็นมะเร็งปอดชนิดเซลล์ตัวเล็ก หรือกำลังรักษาด้วยยาคาโบพลาทินและยาแพคลิแทกเซล
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยาหากไตหรือตับทำงานผิดปกติ เป็นมะเร็งปอด เลือดออกผิดปกติ มีความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด มีภาวะความดันโลหิตสูง เจ็บหน้าอก เป็นโรคหัวใจ หัวใจเต้นช้า หัวใจวาย เป็นหรือมีประวัติคนในครอบครัวมีกลุ่มอาการระยะคิวทียาว และมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจขาดเลือด
  • หากพบว่ามีความผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจหรือมีเลือดออกอย่างรุนแรงในระหว่างที่ใช้ยา ให้หยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ที่ตั้งครรภ์ เพราะอาจเกิดอันตรายกับทารกในครรภ์ได้
  • ห้ามให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยา เพราะอาจเกิดอันตรายต่อทารก
  • ต้องคุมกำเนิดในระหว่างที่ใช้ยานี้ และต้องคุมกำเนิดอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังจากหยุดใช้ยาแล้ว หากตั้งครรภ์ระหว่างที่ใช้ยาก็ควรไปพบแพทย์ทันที

ปริมาณการใช้ยา Sorafenib

ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้

มะเร็งของเนื้อเยื่อไต

ผู้ใหญ่ รับประทานยาปริมาณ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง อาจใช้ยาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะไม่มีการตอบสนองต่อยาหรือไม่สามารถทนต่อผลข้างเคียงของยาได้

การใช้ยา Sorafenib

  • ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ใช้ยานี้ในปริมาณมากกว่า น้อยกว่า หรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์แนะนำ หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
  • รับประทานยาตอนท้องว่างก่อนอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง
  • ห้ามบด หัก หรือเคี้ยวยาชนิดเม็ด โดยให้กลืนยาทั้งเม็ดพร้อมดื่มน้ำเปล่า
  • ระหว่างที่ใช้ยา ผู้ป่วยอาจต้องได้รับการตรวจเลือดอยู่บ่อยครั้ง
  • ก่อนเข้ารับการผ่าตัดหรือการรักษาทางทันตกรรม ต้องแจ้งให้แพทย์ผู้รักษาทราบว่ากำลังใช้ยานี้อยู่ เพราะอาจต้องหยุดใช้ยาชั่วคราว
  • หากสงสัยว่าตนใช้ยาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
  • หากลืมใช้ยาตามเวลาที่กำหนดให้ใช้ยาทันทีที่นึกขึ้นได้ และต้องใช้ยาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงหลังอาหาร แต่หากใกล้ถึงเวลาใช้ยาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปใช้ยารอบต่อไป ห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
  • เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความร้อนและความชื้น

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Sorafenib

การใช้ยา Sorafenib อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย เช่น รู้สึกเหนื่อย อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย มีผื่นขึ้น คัน น้ำหนักตัวลดลง และผมร่วง เป็นต้น แต่หากพบผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือมีอาการแพ้ยา ควรไปพบแพทย์ทันที เช่น

  • อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม คอบวม ลิ้นบวม และริมฝีปากบวม เป็นต้น
  • อาการแพ้ทางผิวหนังรุนแรง ซึ่งอาจมีอาการ เช่น มีไข้ เจ็บคอ หน้าบวม ลิ้นบวม แสบตา เจ็บผิว มีผื่นคันสีแดงหรือม่วงกระจายตามร่างกาย มีแผลพุพอง และผิวลอก เป็นต้น
  • ความดันโลหิตสูงรุนแรง ซึ่งอาจมีอาการ เช่น ปวดศีรษะรุนแรง มองเห็นไม่ชัด มีเสียงดังในหู สับสน หัวใจเต้นผิดปกติ และชัก เป็นต้น
  • มีแผลในปาก
  • ปัสสาวะหรืออุจจาระมีเลือดปน ไอเป็นเลือด หรืออาเจียนสีน้ำตาลเข้ม
  • ประจำเดือนมามากผิดปกติ เกิดรอยช้ำได้ง่าย เลือดออกผิดปกติ หรือเลือดไหลไม่หยุด
  • วิงเวียน หัวใจเต้นเร็ว ไม่มีสมาธิ
  • หายใจมีเสียงหวีด ไอแห้ง ๆ
  • เจ็บหน้าอก เวียนศีรษะรุนแรง เป็นลม มีเหงื่อออก บวม น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หายใจไม่อิ่ม
  • มีผื่นขึ้น มีแผลพุพองหรือแผลมีเลือดซึม เจ็บที่ฝ่ามือหรือฝ่าเท้าอย่างรุนแรง
  • ปวดท้องส่วนบน เบื่ออาหาร คัน ปัสสาวะมีสีเข้ม อุจจาระมีสีคล้ายโคลน และตัวเหลืองตาเหลือง
  • น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วหรืออยากอาหารมากขึ้น มีปัญหาในการนอนหลับ ลำไส้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้น รู้สึกร้อน ประหม่า กังวล หรือคอบวม

นอกจากนี้ หากผู้ป่วยพบอาการผิดปกติใด ๆ เพิ่มเติม ควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยเช่นกัน

cá cược xổ số trực tuyến  baccarat live baccarat online gambling baccarat poker game online live dealer baccarat