Phenylephrine (ฟีนิลเอฟรีน)

Phenylephrine (ฟีนิลเอฟรีน)

trang cá cược xổ số 

Phenylephrine (ฟีนิลเอฟรีน) เป็นยาลดอาการบวมของหลอดเลือดภายในโพรงจมูก ใช้รักษาอาการคัดจมูก หายใจไม่ออก ลดอาการบวมของท่อระบายของเหลวจากหูชั้นใน นอกจากนี้ อาจใช้รักษาอาการอื่น ๆ เช่น เพิ่มความดันโลหิตในผู้ป่วยภาวะความดันต่ำ ใช้เป็นยาขยายรูม่านตา รักษาริดสีดวงทวาร และภาวะหัวใจเต้นเร็วบางชนิดด้วย

trang cá cược xổ số Liên kết đăng nhập

เกี่ยวกับยา Phenylephrine

กลุ่มยา ยาบีบหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดหดตัว
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์ 
สรรพคุณ ลดอาการบวมของหลอดเลือดภายในโพรงจมูก
กลุ่มผู้ป่วย เด็กและผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยารับประทาน ยาใช้เฉพาะที่ ยาใช้ภายนอก ยาเหน็บทวารหนัก และยาฉีด

คำเตือนในการใช้ยา Phenylephrine

  • ห้ามใช้ยานี้หากใช้ยาในกลุ่มเอ็มเอโอไอในช่วง 14 วันที่ผ่านมา รวมถึงใช้ยาบางชนิดอยู่ เช่น ยาเมทิลีนบลู ยาไอโซคาร์บอกซาซิด ยาลีเนโซลิด ยาฟีเนลซีน ยาเซเลกิลีน หรือยาทรานิลซัยโปรมีน เพราะอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่อันตรายได้เมื่อใช้ร่วมกับยาชนิดนี้
  • หากกำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ห้ามใช้ยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายาจะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือไม่ ส่วนผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ยาอาจถูกส่งผ่านทางน้ำนมและเป็นอันตรายต่อทารกได้
  • ห้ามใช้ยากับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี และควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนให้เด็กเล็กรับประทานยาชนิดนี้ ยาแก้ไอ หรือยาแก้หวัดใด ๆ เพราะการใช้ยาอย่างไม่ถูกต้องหรือใช้ผิดจุดประสงค์อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
  • ไม่ควรใช้ยานี้หากมีอาการแพ้ยา Phenylephrine หรือยาบรรเทาอาการคัดจมูกชนิดอื่น ๆ
  • แจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้าหากต้องรับการผ่าตัดว่ากำลังใช้ยา Phenylephrine เพราะอาจต้องหยุดใช้ยาสักระยะหนึ่งก่อนการผ่าตัด
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวใด ๆ เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ไทรอยด์ หรือโรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเสมอ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ป่วยเอง
  • ควรไปพบแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นหลังใช้ยาไปแล้ว 7 วัน หรือมีอาการข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น มีผื่นคันตามผิวหนัง ปวดศีรษะ หรือไอ
  • ยา Phenylephrine รวมถึงยาบรรเทาอาการคัดจมูกชนิดอื่น ๆ อาจมีส่วนผสมของยาหลายชนิด ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรให้ดีก่อนใช้ยา และอ่านส่วนผสมที่ระบุบนฉลากของยาให้ชัดเจน เพราะหากรับประทานยาบางชนิดร่วมกัน อาจทำให้ได้รับยาเกินขนาด

ปริมาณการใช้ยา Phenylephrine

Phenylephrine มีปริมาณการใช้ยาแตกต่างกันตามอายุและอาการของผู้ป่วยแต่ละราย โดยมีตัวอย่างปริมาณการใช้ยาและรายละเอียด ดังนี้

อาการคัดจมูก

ยาชนิดหยอดหรือพ่นจมูก

  • ผู้ใหญ่ ใช้ยาที่มีความเข้มข้น 0.25-1 เปอร์เซ็นต์ หยอดหรือพ่นจมูกทั้ง 2 ข้าง ทุก 4 ชั่วโมง
  • เด็กอายุ 2-6 ปี ใช้ยาที่มีความเข้มข้น 0.125-0.16 เปอร์เซ็นต์ หยอดจมูกทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 2-3 หยด ทุก 4 ชั่วโมง
  • เด็กอายุ 6-12 ปี ใช้ยาที่มีความเข้มข้น 0.25 เปอร์เซ็นต์ หยอดจมูกข้างละ 2-3 หยด หรือพ่นจมูก 1-2 ครั้ง ในจมูกทั้ง 2 ข้าง ทุก 4 ชั่วโมง

ยาชนิดรับประทาน

  • ผู้ใหญ่ รับประทานยาปริมาณ 12 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง หรือรับประทานยาในรูปแบบไฮโดรคลอไรด์ปริมาณ 10 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง สูงสุดไม่เกินวันละ 60 มิลลิกรัม
  • เด็กอายุ 2-6 ปี รับประทานยาในรูปแบบเกลือแทนเนตปริมาณ 1.87-3.75 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง
  • เด็กอายุ 6-12 ปี รับประทานยาในรูปแบบไฮโดรคลอไรด์ปริมาณ 10 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง หรือรับประทานยาในรูปแบบเกลือแทนเนตปริมาณ 3.75-7.5 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง
  • เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป รับประทานยาในรูปแบบไฮโดรคลอไรด์ปริมาณ 10-20 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง หรือรับประทานยาในรูปแบบเกลือแทนเนตปริมาณ 7.5-15 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง

ภาวะหัวใจเต้นเร็ว

  • ผู้ใหญ่ ในช่วงแรกให้ฉีดยารูปแบบไฮโดรคลอไรด์ที่มีความเข้มข้น 0.1 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณสูงสุดไม่เกิน 500 ไมโครกรัม จากนั้นหากมีความจำเป็นสามารถปรับเพิ่มปริมาณยาได้ 100-200 ไมโครกรัม โดยให้ยาสูงสุดไม่เกิน 1 มิลลิกรัม

เยื่อบุตาบวม

  • ผู้ใหญ่ หยดยารูปแบบไฮโดรคลอไรด์ที่มีความเข้มข้น 0.12 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณ 1-2 หยด ลงในดวงตาข้างที่มีอาการ สูงสุดไม่เกินวันละ 4 ครั้ง และห้ามใช้ยาอย่างต่อเนื่องเกิน 72 ชั่วโมง

ขยายรูม่านตา

  • ผู้ใหญ่ หยดยารูปแบบไฮโดรคลอไรด์ที่มีความเข้มข้นสูงสุดไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณ 1 หยด และสามารถหยดซ้ำได้หลังจากหยดแรก 10-60 นาที
  • เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี หยดยาที่มีความเข้มข้น 2.5 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณ 1 หยด ส่วนเด็กอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป สามารถหยดยาซ้ำได้หลังจากหยดแรก 10-60 นาที

ภาวะความดันต่ำ

  • ผู้ใหญ่ ในช่วงแรกใช้ยารูปแบบไฮโดรคลอไรด์ที่มีความเข้มข้น 1 เปอร์เซ็นต์ ฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือกล้ามเนื้อ ปริมาณ 2-5 มิลลิกรัม หรือใช้ยาที่มีความเข้มข้น 0.1 เปอร์เซ็นต์ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำอย่างช้า ๆ ปริมาณ 100-500 ไมโครกรัม สำหรับผู้ป่วยที่มีความดันต่ำมาก ให้ใช้ยา 10 มิลลิกรัม ในสารละลาย 500 มิลลิกรัมที่มีกลูโคสความเข้มข้น 5 เปอร์เซ็นต์ หรือโซเดียมคลอไรด์ที่มีความเข้มข้น 0.9 เปอร์เซ็นต์ โดยให้ยาหยดเข้าทางหลอดเลือดดำในอัตรา 180 ไมโครกรัม/นาที หากผู้ป่วยมีการตอบสนอง สามารถปรับลดเป็นอัตรา 30-60 ไมโครกรัม/นาที
  • เด็กที่มีความดันต่ำเฉียบพลันอายุ 1-12 ปี ฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังหรือกล้ามเนื้อ ปริมาณ 100 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 1-2 ชั่วโมง โดยให้ยาได้สูงสุดไม่เกิน 5 มิลลิกรัม หรือฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ปริมาณ 5-20 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
  • เด็กที่มีความดันต่ำเฉียบพลันอายุ 12-18 ปี ในเบื้องต้นฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังหรือกล้ามเนื้อ ปริมาณ 2-5 มิลลิกรัม แล้วตามด้วยยาปริมาณ 1-10 มิลลิกรัม หรือฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ปริมาณ 100-500 ไมโครกรัม หากมีความจำเป็นสามารถให้ยาซ้ำได้หลังจากให้ยาครั้งก่อน 15 นาที
  • เด็กที่มีความดันต่ำเฉียบพลันอายุ 1-16 ปี ให้ยาหยดเข้าทางหลอดเลือดดำช้า ๆ ปริมาณ 100-500 นาโนกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/นาที
  • เด็กที่มีความดันต่ำเฉียบพลันอายุ 16-18 ปี หยดยาเข้าทางหลอดเลือดดำช้า ๆ ในอัตรา 180 ไมโครกรัม/นาที หากผู้ป่วยมีการตอบสนอง สามารถปรับลดเป็นอัตรา 30-60 ไมโครกรัม/นาที ได้

ริดสีดวงทวาร

  • ผู้ใหญ่และเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ใช้ยารูปแบบครีมหรือขี้ผึ้งทาในบริเวณที่มีอาการ สามารถใช้ทาได้ทั้งภายนอกและภายใน และใช้ยาเหน็บทวารหนัก โดยใช้ได้สูงสุดไม่เกินวันละ 4 ครั้ง

การใช้ยา Phenylephrine

  • ควรอ่านฉลากยาและทำตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ใช้ยาในปริมาณมากหรือน้อยเกินไป และไม่ใช้ยานานเกินกว่าระยะเวลาที่แพทย์สั่ง
  • ควรใช้ยาแต่ละชนิดให้ถูกต้อง เช่น ยาเม็ดชนิดเคี้ยวให้เคี้ยวยาก่อนกลืน ยาน้ำให้เขย่าขวดก่อนรับประทานทุกครั้ง และใช้อุปกรณ์ตวงยาที่แนบมากับตัวยา เพื่อให้ได้ปริมาณยาที่ไม่คลาดเคลื่อน
  • หากลืมรับประทานยาตามกำหนด เมื่อนึกขึ้นได้ให้รับประทานยาทันที แต่หากเป็นเวลาใกล้กับยาครั้งถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาตามเวลาและปริมาณปกติ ไม่ต้องเพิ่มปริมาณยาเพื่อทดแทนครั้งที่ขาดไป
  • ควรเก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นมือเด็ก ห่างจากความร้อนและความชื้น ไม่ให้ยาสัมผัสแสงโดยตรง ปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังใช้ยา และไม่รับประทานยาที่หมดอายุ

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Phenylephrine

ยา Phenylephrine อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป เช่น เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ มีผื่นคันขึ้นตามร่างกาย รู้สึกร้อน ชา หรือแดงที่ผิวหนัง รู้สึกกระสับกระส่ายโดยเฉพาะในผู้ป่วยเด็ก เป็นต้น

นอกจากนั้น ผู้ป่วยควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน หากพบอาการรุนแรงอื่น ๆ ดังต่อไปนี้

  • หัวใจเต้นแรง เต้นเร็ว หรือเต้นผิดจังหวะ
  • วิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง หรือรู้สึกวิตกกังวล
  • เกิดแผลฟกช้ำหรือมีเลือดออกง่าย รู้สึกอ่อนเพลียมากกว่าปกติ มีไข้ หนาวสั่น เป็นหวัด ปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • อาการของความดันโลหิตสูงที่เป็นอันตราย เช่น ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ตาพร่ามัว หูอื้อ รู้สึกสับสนหรือวิตกกังวล เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นผิดปกติ หายใจลำบาก ชัก เป็นต้น
cá cược xổ số trực tuyến  baccarat live baccarat online gambling baccarat poker game online live dealer baccarat