Imipramine (อิมิพรามีน)

Imipramine (อิมิพรามีน)

trang cá cược xổ số 

Imipramine (อิมิพรามีน) เป็นยาต้านเศร้ากลุ่มไตรไซคลิก (Tricyclic Antidepressants: TCA) ที่นำมาใช้รักษาโรคซึมเศร้า โดยยาจะช่วยฟื้นฟูความสมดุลของสารเคมีในสมองอย่างสารนอร์เอพิเนฟริน หรือใช้รักษาอาการปัสสาวะรดที่นอน โดยยาอาจช่วยยับยั้งผลกระทบจากสารตามธรรมชาติอย่างสารแอซิติลโคลีนในกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ อาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์

ยา Imipramine มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ

trang cá cược xổ số Liên kết đăng nhập

เกี่ยวกับยา Imipramine

กลุ่มยา ยารักษาโรคซึมเศร้า
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์ 
สรรพคุณ รักษาโรคซึมเศร้า และอาการปัสสาวะรดที่นอน
กลุ่มผู้ป่วย เด็ก ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยารับประทาน

คำเตือนในการใช้ยา Imipramine

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยา Imipramine หากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบใด ๆ ของยาชนิดนี้ รวมถึงยารักษาโรคซึมเศร้าชนิดอื่น ๆ เช่น ยาอะมิทริปไทลีน ยาอะม็อกซาปีน ยาโคลมิพรามีน เป็นต้น
  • แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ ทั้งยาที่แพทย์สั่ง ยาที่ซื้อใช้ด้วยตนเอง วิตามิน และสมุนไพร เพราะมียาหลายชนิดที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ เช่น ยาโรคซึมเศร้าชนิดอื่น ๆ ยาไซเมทิดีน ยาโคลนิดีน เป็นต้น
  • ผู้ป่วยที่มีอาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันไม่ควรใช้ยา Imipramine
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยา Imipramine หากผู้ป่วยใช้ยารักษาโรคซึมเศร้ากลุ่ม MAO Inhibitor ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา เช่น ยาลีเนโซลิด ยาเซเลจิลีน เป็นต้น เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยา
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้ หากเป็นโรคหัวใจหรือมีประวัติเป็นโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง มีอาการชัก โรคไบโพลาร์ โรคจิตเภทหรือป่วยทางจิต โรคไต โรคตับ เนื้องอกที่ต่อมหมวกไต โรคเบาหวาน โรคต้อหินชนิดมุมปิด มีปัญหาในการปัสสาวะ หรือมีภาวะทางจิตเวชที่ต้องรักษาด้วยไฟฟ้า
  • ยา Imipramine อาจทำให้ผู้ป่วยที่ใช้ยาครั้งแรกมีความคิดฆ่าตัวตาย ในระหว่างที่ใช้ยานี้ ควรสังเกตอาการผิดปกติและการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หากพบความผิดปกติใด ๆ ให้ไปพบแพทย์ทันที
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือวางแผนมีบุตร ควรปรึกษาแพทย์ถึงข้อดีและข้อเสียของยาก่อนใช้เสมอ
  • ผู้สูงอายุควรใช้ยาด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาสูง
  • ห้ามใช้ยา Imipramine รักษาโรคซึมเศร้าในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ และไม่ใช้ยานี้รักษาอาการปัสสาวะรดที่นอนในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบในระหว่างที่ใช้ยา Imipramine เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้
  • ระหว่างที่ใช้ยานี้ ให้ระมัดระวังการทำกิจกรรมที่ต้องมีความตื่นตัว เพราะยาอาจทำให้ความคิดหรือการตอบสนองของร่างกายบกพร่องได้
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดระหว่างที่ใช้ยานี้ เพราะยาอาจทำให้ผิวไวต่อแสงและไหม้แดดได้ง่าย นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรป้องกันตนเองจากแสงแดดด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด และทาครีมกันแดดเมื่อต้องออกไปกลางแจ้ง

ปริมาณการใช้ยา Imipramine

ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้

โรคซึมเศร้า

ผู้ใหญ่ รับประทานยาปริมาณเริ่มต้น 75 มิลลิกรัม โดยแบ่งรับประทานหลายครั้ง หากจำเป็นอาจค่อย ๆ เพิ่มปริมาณยาจนถึง 150-200 มิลลิกรัม/วัน แต่ปริมาณยาสูงสุดต้องไม่เกิน 300 มิลลิกรัม/วัน

ผู้สูงอายุ รับประทานยาปริมาณเริ่มต้น 10 มิลลิกรัม อาจค่อย ๆ เพิ่มปริมาณยาจนถึง 30-50 มิลลิกรัม/วัน

อาการปัสสาวะรดที่นอน

เด็ก

  • อายุ 6-7 ปี น้ำหนัก 20-25 กิโลกรัม รับประทานยาปริมาณ 25 มิลลิกรัม
  • อายุ 8-11 ปี น้ำหนัก 25-35 กิโลกรัม รับประทานยาปริมาณ 25-50 มิลลิกรัม
  • อายุ 11 ปี น้ำหนัก 35-54 กิโลกรัม รับประทานยาปริมาณ 50-75 มิลลิกรัม
ทั้งนี้ ทุกช่วงอายุและน้ำหนักตัว ให้รับประทานยาในเวลาก่อนนอน โดยระยะเวลาในการใช้ยารักษาไม่ควรเกิน 3 เดือน

การใช้ยา Imipramine

  • ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ใช้ยาในปริมาณมากกว่า น้อยกว่า หรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์แนะนำ หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
  • ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบว่ากำลังใช้ยานี้ เพราะผู้ป่วยอาจต้องหยุดใช้ยาชั่วคราว
  • ให้ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดแม้ว่าอาการจะยังไม่ดีขึ้น เพราะอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ จึงจะเริ่มเห็นผลการรักษา
  • แจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
  • ห้ามหยุดใช้ยาอย่างกะทันหันโดยไม่ปรึกษาแพทย์
  • หากลืมรับประทานยาตามกำหนด ให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้กับเวลาที่ต้องรับประทานยาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปใช้ยารอบต่อไป และห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
  • หากสงสัยว่าตนใช้ยาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
  • เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความร้อน แสงแดด และความชื้น รวมทั้งปิดฝาขวดยาให้สนิทเมื่อไม่ได้ใช้

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Imipramine

การใช้ยา Imipramine อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น รู้สึกอ่อนแรง ปวดคล้ายเข็มทิ่ม ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้เหมือนปกติ ปากแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ท้องเสีย มีเสียงดังในหู หน้าอกโตขึ้น สมรรภภาพทางเพศลดลง เป็นต้น หากอาการดังกล่าวไม่หายไปหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ หากพบผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยา Imipramine ดังต่อไปนี้ ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที
  • อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม ริมฝีปากบวม ลิ้นบวม และคอบวม เป็นต้น
  • มองเห็นไม่ชัด มองเห็นเฉพาะสิ่งที่อยู่ด้านหน้า มองเห็นรัศมีรอบแสงไฟ เจ็บตา ตาบวม
  • รู้สึกวิงเวียนคล้ายจะเป็นลม
  • เจ็บหน้าอก ใจสั่น
  • มีอาการชาหรืออ่อนแรงอย่างฉับพลัน
  • มีปัญหาในการมองเห็น การพูด หรือการทรงตัว
  • มีไข้ เจ็บคอ
  • ปัสสาวะลำบากหรือเจ็บขณะปัสสาวะ
  • ดีซ่าน หรือตัวเหลืองตาเหลือง
  • สับสน ประสาทหลอน ความคิดหรือพฤติกรรมผิดปกติ
  • อาการชัก
นอกจากนี้ หากผู้ป่วยพบอาการผิดปกติใด ๆ เพิ่มเติม ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยเช่นกัน cá cược xổ số trực tuyến  baccarat live baccarat online gambling baccarat poker game online live dealer baccarat