Clorazepate (คลอราซีเพท)

Clorazepate (คลอราซีเพท)

trang cá cược xổ số 

Clorazepate (คลอราซีเพท) เป็นยากดประสาทและยากล่อมประสาท ออกฤทธิ์โดยช่วยลดความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าในสมอง นำมาใช้รักษาโรควิตกกังวล กลุ่มอาการเนื่องจากการขาดสุรา และโรคลมชัก นอกจากนี้ ยังอาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์

trang cá cược xổ số Liên kết đăng nhập

ยา Clorazepate มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ

เกี่ยวกับยา Clorazepate

กลุ่มยา ยากดประสาทและยากล่อมประสาท
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ รักษาโรควิตกกังวล รักษากลุ่มอาการเนื่องจากการขาดสุรา และโรคลมชัก
กลุ่มผู้ป่วย เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ
รูปแบบของยา ยารับประทาน


คำเตือนในการใช้ยา Clorazepate

  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้ หากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ และแพ้ยาชนิดอื่น อาหาร หรือสารใด ๆ
  • แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ ทั้งยาที่แพทย์สั่ง ยาที่ซื้อใช้ด้วยตนเอง วิตามิน และสมุนไพร เพราะมียาหลายชนิดที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้ หากเป็นโรคต้อหิน โรคซึมเศร้า หรือมีความผิดปกติทางจิตอื่น ๆ
  • แจ้งให้แพทย์ พยาบาล เภสัชกร และทันตแพทย์ทราบว่ากำลังใช้ยานี้ ก่อนเข้ารับการรักษาใด ๆ
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากมีพฤติกรรมดื่มแอลกอฮอล์หรือกำลังใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ทำให้ร่างกายทำงานช้าลง
  • ห้ามให้เด็กอายุต่ำกว่า 9 ปี ใช้ยานี้
  • ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป ให้ใช้ยานี้อย่างระมัดระวัง เพราะเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงสูง
  • ห้ามเริ่มใช้ยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงปริมาณการใช้ยาด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
  • หลีกเลี่ยงการขับรถและทำกิจกรรมที่ต้องมีความตื่นตัวหรือการมองเห็นที่ชัดเจน จนกว่าจะแน่ใจว่ายานี้ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รบกวนการทำกิจกรรมดังกล่าว
  • ผู้ป่วยที่ใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจต้องเข้ารับการตรวจเลือดเป็นประจำ
  • การใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการเสพติดยาได้
  • การใช้ยานี้ในระหว่างการตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดอันตรายต่อทารก ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา และหากตั้งครรภ์ในระหว่างที่ใช้ยานี้ ให้ไปพบแพทย์ทันที
  • ห้ามให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยานี้ เพราะยาอาจซึมผ่านน้ำนมและเป็นอันตรายต่อทารกได้

ปริมาณการใช้ยา Clorazepate

ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้

รักษากลุ่มอาการเนื่องจากการขาดสุราและโรคลมชัก
ผู้ใหญ่ รับประทานยาปริมาณ 90 มิลลิกรัม/วัน โดยแบ่งรับประทาน
เด็กอายุ 9-12 ปี รับประทานยาปริมาณ 60 มิลลิกรัม โดยแบ่งรับประทาน
ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่อ่อนแอ ให้เริ่มใช้ยาจากปริมาณต่ำสุดและปรับเพิ่มปริมาณยาทีละน้อย

โรควิตกกังวล 
ผู้ใหญ่ รับประทานยาครั้งละ 7.5 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง
ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่อ่อนแอ ให้เริ่มใช้ยาจากปริมาณยาต่ำสุดและปรับเพิ่มปริมาณยาทีละน้อย

การใช้ยา Clorazepate

  • ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
  • รับประทานยาพร้อมอาหารหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้ แต่หากยาทำให้เกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วน ให้รับประทานพร้อมอาหาร
  • หากลืมใช้ยาตามเวลาที่กำหนด ให้ใช้ยาทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ถึงเวลาใช้ยาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปใช้ยารอบต่อไป และไม่เพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
  • ห้ามให้ผู้อื่นใช้ยานี้ และห้ามใช้ยาของผู้อื่น
  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
  • หากสงสัยว่าตนใช้ยาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
  • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถึงวิธีเก็บยาและวิธีกำจัดยาที่ไม่ได้ใช้แล้วอย่างเหมาะสม
  • เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ในที่แห้ง ห่างจากแสงแดด และเก็บให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Clorazepate

การใช้ยา Clorazepate อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ได้แก่ เวียนศีรษะ ง่วงซึม ปวดศีรษะ ท้องไส้ปั่นป่วน อาเจียน ปากแห้ง เหนื่อยหรืออ่อนเพลีย ประหม่า เป็นต้น หากอาการดังกล่าวไม่หายไปหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์

หากพบผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยา Clorazepate ดังต่อไปนี้ ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที

  • อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม ริมฝีปากบวม ลิ้นบวม คอบวม ผื่นคัน ผิวหนังบวม แดง พุพอง ผิวลอกพร้อมกับมีไข้หรือไม่มีไข้ แน่นหน้าอกหรือลำคอ หายใจเสียงดัง มีปัญหาในการหายใจหรือการพูด เสียงแหบ เป็นต้น
  • การมองเห็นเปลี่ยนแปลง มองเห็นไม่ชัดหรือเห็นภาพซ้อน
  • มีปัญหาในการทรงตัว
  • มีอาการสั่นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
  • พูดไม่ชัด
  • สับสน รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนเพลีย
  • ปัสสาวะไม่ออกหรือปัสสาวะน้อยลง
  • เวียนศีรษะอย่างรุนแรงหรือหมดสติ
  • นอนไม่หลับ
  • อาการชักแย่ลงหรืออาการเปลี่ยนแปลงไปหลังจากเริ่มใช้ยา

นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่ใช้ยานี้เสี่ยงมีความคิดฆ่าตัวตายหรือพยายามฆ่าตัวตายสูง โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีความคิดหรือพฤติกรรมฆ่าตัวตายมาก่อน ดังนั้น หากพบว่าผู้ป่วยมีอาการซึมเศร้า ประหม่า กระสับกระส่าย ตื่นกลัว หรือมีพฤติกรรมและอารมณ์ที่ผิดปกติ ให้พาไปพบแพทย์ทันที และหากมีอาการผิดปกติใด ๆ เพิ่มเติม ควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยเช่นกัน

cá cược xổ số trực tuyến  baccarat live baccarat online gambling baccarat poker game online live dealer baccarat