Clarithromycin (คลาริโทรมัยซิน)

Clarithromycin (คลาริโทรมัยซิน)

trang cá cược xổ số 

Clarithromycin (คลาริโทรมัยซิน) เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มแมคโครไลด์ มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตหรือการแบ่งตัวของเชื้อแบคทีเรีย ใช้ป้องกันหรือรักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ในร่างกาย ทั้งบริเวณผิวหนังและในระบบทางเดินหายใจ และในบางครั้งอาจถูกนำมาใช้ร่วมกับยาชนิดอื่น ๆ เพื่อรักษาโรคติดเชื้อเอชไพโลไร (Helicobacter Pylori) ในระบบทางเดินอาหาร อย่างไรก็ตาม ยาปฏิชีวนะ Clarithromycin ไม่สามารถนำมาใช้รักษาไข้หวัด หรือการติดเชื้อจากไวรัสได้

trang cá cược xổ số Liên kết đăng nhập

เกี่ยวกับ Clarithromycin

กลุ่มยา ยาปฏิชีวนะกลุ่มแมคโครไลด์ (Macrolides)
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์  
สรรพคุณ รักษาและป้องกันจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่และเด็ก
รูปแบบของยา ยารับประทานชนิดเม็ดและผงผสมน้ำสำหรับเด็ก

คำเตือนการใช้ยา Clarithromycin

ผู้ที่อยู่ในกลุ่มดังต่อไปนี้ไม่ควรใช้ยา

  • เคยมีประวัติโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดลองคิวทีซินโดรม (Long QT Syndrome)
  • มีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติที่อันตรายถึงชีวิต
  • เป็นดีซ่านหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับจากการใช้ยา Clarithromycin

ผู้ที่อยู่ในกลุ่มดังต่อไปนี้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา

  • ตั้งครรภ์ มีแนวโน้มจะตั้งครรภ์ เพราะยาอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ รวมทั้งหญิงให้นมบุตร
  • เคยมีประวัติแพ้ยา Clarithromycin ยาอะซิโทรมัยซิน (Azithromycin) ยาดีริโธรมัยซิน (Dirithromycin) ยาอิริโทรมัยซิน (Erythromycin) ยาเทลิโทรมัยซิน (Telithromycin) หรือยาชนิดอื่น ๆ
  • สมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดลองคิวทีซินโดรม
  • อิเล็คโตรไลท์ในร่างกายไม่สมดุล
  • วางแผนที่จะผ่าตัด โดยเฉพาะศัลยกรรมในช่องปาก
  • เป็นโรคตับหรือโรคไต
  • เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • เป็นโรคโพรพีเรีย (Porphyria)

เมื่อใช้ยา Clarithromycin ร่วมกับยาบางชนิด เช่น ควิไทอะปีน (Quetiapine) ทีโอฟิลลีน (Theophylline) วาฟาริน (Warfarin) ยากลุ่มปิดกั้นแคลเซียม (Calcium Channel Blocker) ยานอนหลับกลุ่มเบนโซไดอะซีปีน หรือยารับประทานเพื่อรักษาโรคเบาหวานบางชนิด ยาอาจเกิดปฏิกิริยาต่อกัน ทำให้ผู้ใช้ได้รับผลข้างเคียงมากกว่าปกติ นอกจากนั้น ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรให้ทราบหากกำลังใช้ยาดังต่อไปนี้

  • ยาพิโมไซด์ (Pimozide)
  • ยารักษาโรคเก๊าท์ เช่น ยาโคลชิซิน (Colchicine) 
  • ยารักษาโรคเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศบางชนิด เช่น วาร์เดนาฟิล (Vardenafil)
  • ยาต้านเชื้อรา เช่น ยาไอทราโคนาโซล (Itraconazole)
  • ยาต้านไวรัสตับอักเสบซี เช่น ยาทีลาพรีเวียร์ (Telaprevir)
  • ยาต้านไวรัสเอชไอวี เช่น ยาโลปินาเวียร์ (Lopinavir) และยาริโทนาเวียร์ (Ritonavir)
  • ยาแก้ปวดหัวไมเกรนกลุ่มยาเออร์โกตามีน (Ergotamine) และไดไฮโดรเออร์โกตามีน (Dihydroergotamine)
  • ยาสำหรับภาวะคอเลสเตอรอลสูง เช่น ยาโลวาสแตติน (Lovastatin) หรือยาซิมวาสแตติน (Simvastatin)
  • ยาปฏิชีวนะอื่น ๆ เช่น เทลิโทรมัยซิน (Telithromycin)

ปริมาณการใช้ยา Clarithromycin
ปริมาณการใช้ยา Clarithromycin เพื่อรักษาอาการแต่ละชนิดจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่านำมาใช้เพื่อรักษาหรือป้องกันโรคใด รวมไปถึงชนิดการออกฤทธิ์ของยา ตัวอย่างปริมาณการให้ยามีดังนี้

ทอนซิลอักเสบและคอหอยอักเสบ

  • ผู้ใหญ่
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 250 มิลลิกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 10 วัน
  • เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 7.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 10 วัน (สูงสุด 500 มิลลิกรัมต่อครั้ง)

ผิวหนังและโครงสร้างผิวหนังติดเชื้อ

  • ผู้ใหญ่
    ยารับประทานชนิดค่อย ๆ ออกฤทธิ์ปริมาณ 250 มิลลิกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 7-14 วัน
  • เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 7.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 10 วัน (สูงสุด 500 มิลลิกรัมต่อครั้ง)

โรคไซนัสอักเสบ

  • ผู้ใหญ่
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 500 มิลลิกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 14 วัน
    ยารับประทานชนิดค่อย ๆ ออกฤทธิ์ปริมาณ 1,000 มิลลิกรัม ทุก ๆ 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 14 วัน
  • เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 7.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 10 วัน (สูงสุด 500 มิลลิกรัมต่อครั้ง)

โรคปอดบวม

  • ผู้ใหญ่
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 250 มิลลิกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 7 วัน ใช้เมื่อติดเชื้อจากแบคทีเรียฮิโมฟิลุส อินฟลูเอนซา (H Influenzae)
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 250 มิลลิกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 7-14 วัน ใช้เมื่อติดเชื้อจากแบคทีเรียคลามัยเดีย นิวโมเนีย (Chlamydia Pneumoniae) หรือเสตร็ปโทโคคัส นิวโมเนีย (S Pneumoniae)
    ยารับประทานชนิดค่อย ๆ ออกฤทธิ์ปริมาณ 1,000 มิลลิกรัม ทุก ๆ 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 7 วัน
  • เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 7.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 10 วัน (สูงสุด 500 มิลลิกรัมต่อครั้ง)

โรคไอกรน

  • ผู้ใหญ่
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 500 มิลลิกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 7 วัน
  • เด็กอายุ 1 เดือนขึ้นไป
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 7.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 7 วัน (สูงสุด 500 มิลลิกรัมต่อครั้ง)

หูชั้นกลางอักเสบ

  • เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 7.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 10 วัน (สูงสุด 500 มิลลิกรัมต่อครั้ง)

โรคหลอดลมอักเสบ 

  • ผู้ใหญ่
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 500 มิลลิกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 7 วัน ใช้เมื่อติดเชื้อจากแบคทีเรียฮิโมฟิลุส พาราอินฟลูเอนซา (H Parainfluenzae)
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 500 มิลลิกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 7-14 วัน ใช้เมื่อติดเชื้อจากแบคทีเรียฮิโมฟิลุส อินฟลูเอนซา
    ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 250 มิลลิกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 7-14 วัน ใช้เมื่อติดเชื้อจากแบคทีเรียมอแรกเซลลา (M Catarrhalis) หรือเสตร็ปโทโคคัส นิวโมเนีย
    ยารับประทานชนิดค่อย ๆ ออกฤทธิ์ปริมาณ 1,000 มิลลิกรัม ทุก ๆ 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 7 วัน

โรคเอชไพโลไร

  • ผู้ใหญ่

การใช้ตัวยา 3 ชนิดรักษาร่วมกัน (Triple Therapy)

  • ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 500 มิลลิกรัม ร่วมกับยาอะม็อกซี่ซิลลิน (Amoxicillin) และยาแลนโซพราโซล (Lansoprazole) ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 10-14 วัน
  • ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 500 มิลลิกรัม ร่วมกับยาอะม็อกซี่ซิลลินและยาโอเมพราโซล (Omeprazole) ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 10 วัน

การใช้ตัวยา 2 ชนิดรักษาร่วมกัน (Dual Therapy)

  • ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 500 มิลลิกรัม ร่วมกับยาโอเมพราโซล ทุก ๆ 8 ชั่วโมง เป็นเวลา 14 วัน
  • ยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 500 มิลลิกรัม ร่วมกับยารานิทิดีน บิสมัท ซิเตรต (Ranitidine Bismuth Citrate) ทุก ๆ 8-12 ชั่วโมง เป็นเวลา 14 วัน

การใช้ยา Clarithromycin

  • ห้ามบดยารับประทานชนิดออกฤทธิ์ทันที ให้รับประทานยาทั้งเม็ด แต่จะรับประทานพร้อมมื้ออาหารหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้
  • ยารับประทานชนิดค่อย ๆ ออกฤทธิ์ ต้องรับประทานพร้อมมื้ออาหารเท่านั้น แต่สามารถบดยาก่อนกินได้
  • ควรใช้ยาตามปริมาณที่แพทย์หรือเภสัชสั่งอย่างเคร่งครัด
  • ควรเก็บยาไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่มากับตัวยา ปิดให้สนิท และพ้นจากเด็ก
  • ควรเก็บยาไว้ในที่ที่อุณหภูมิ 20-25 องศา ให้พ้นจากแสง ความร้อนและความชื้น
  • ห้ามนำยาไปแช่เย็น
  • ห้ามทิ้งยาไว้ในรถ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนจัดหรือเย็นจัด
  • หากไม่ใช้ยาหรือหยุดใช้ยากะทันหัน อาการอาจแย่ลงและไม่สามารถยับยั้งการติดเชื้อได้
  • หากลืมกินยาหรือกินยาไม่ตรงเวลา อาจทำให้ประสิทธิภาพการออกฤทธื์ของยาลดลง หรือไม่ออกฤทธิ์เลย ควรกินยาทันทีที่นึกได้ แต่หากใกล้เคียงกับช่วงเวลาการกินยาครั้งต่อ ให้ข้ามยาที่ลืมกินไป โดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณในครั้งไป
  • หากกินยาเกินขนาด ผู้ใช้อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องหรือท้องเสีย หากไม่หายใจหรือล้มฟุบลงไป คนใกล้ชิดควรนำตัวส่งแพทย์ทันที
  • ให้ทิ้งยาเมื่อไม่ได้ใช้ยาแล้วหรือยาหมดอายุ

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Clarithromycin

ผู้ใช้ยา Clarithromycin อาจได้รับผลข้างเคียงที่ไม่จำเป็นต้องรับการรักษาทางการแพทย์ เช่น เรอ ผายลม มีแก๊สในท้องหรือลำไส้ แน่นท้องหรือประสาทสัมผัสการรับรสเปลี่ยนไป เมื่อร่างกายปรับตัวให้เข้ากับยาได้แล้ว อาการดังกล่าวอาจหายไป แต่หากอาการยังปรากฏอยู่อย่างต่อเนื่องหรือทำให้รู้สึกรำคาญ ควรไปตรวจกับแพทย์ โดยเฉพาะหากปรากฏอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

  • ปัญหาเกี่ยวกับตับ เช่น ผิวเหลืองหรือตาเหลือง กินอะไรไม่ลง ปวดท้องช่วงบน ปัสสาวะสีเข้ม อ่อนเพลีย เป็นต้น
  • ปัญหาเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจ เช่น หัวใจเต้นเร็ว เป็นต้น
  • เกิดอาการแพ้ ซึ่งได้แก่ บวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก และลำคอ หายใจลำบาก เป็นผื่นลมพิษ หรือภาวะผิวหนังอื่น ๆ ที่รุนแรง
cá cược xổ số trực tuyến  baccarat live baccarat online gambling baccarat poker game online live dealer baccarat