Fenofibrate (ฟีโนไฟเบรต)

Fenofibrate (ฟีโนไฟเบรต)

trang cá cược xổ số 

Fenofibrate (ฟีโนไฟเบรต) เป็นยารักษาภาวะไขมันในเลือดสูง มีฤทธิ์ช่วยเพิ่มสารหรือเอนไซม์ในร่างกายที่ทำหน้าที่ลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็งและตับอ่อนอักเสบได้ แต่อาจไม่ช่วยลดความเสี่ยงโรคในการเกิดโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมอง ทั้งนี้ ยานี้ควรใช้ควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก เลิกสูบบุหรี่ เป็นต้น

ยา Fenofibrate มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ

trang cá cược xổ số Liên kết đăng nhập

เกี่ยวกับยา Fenofibrate

กลุ่มยา ยาลดไขมันในเลือด
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์ 
สรรพคุณ รักษาภาวะไขมันในเลือดสูง
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยารับประทาน

คำเตือนในการใช้ยา Fenofibrate

  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้ หากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ รวมถึงยาชนิดอื่น อาหาร หรือสารใด ๆ
  • ผู้ป่วยโรคตับ โรคถุงน้ำดี โรคไตรุนแรง หรืออยู่ในช่วงฟอกไต ไม่ควรใช้ยานี้
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากเป็นโรคไต โรคเบาหวาน โรคหัวใจ มีความผิดปกติเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ หรือมีประวัติเป็นโรคตับอ่อนอักเสบหรือโรคตับ
  • แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา อาหารเสริม และสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ โดยเฉพาะยาลดไขมันในเลือดชนิดอื่น ๆ ยากดภูมิคุ้มกัน ยาโคลชิซิน และยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาร์ฟาริน เป็นต้น
  • แจ้งให้แพทย์ทราบว่ากำลังใช้ยาชนิดนี้หรือยาชนิดใดก็ตาม ก่อนเข้ารับการผ่าตัดใด ๆ
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างที่ใช้ยานี้ เพราะอาจทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดเพิ่มสูงและเกิดความเสียหายต่อตับ
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือวางแผนมีบุตรควรปรึกษาแพทย์ถึงข้อดีและข้อเสียของการใช้ยานี้ เพราะยานี้อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้
  • ห้ามให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยานี้ เพราะยาอาจซึมผ่านน้ำนมมารดาและเป็นอันตรายต่อทารกได้

ปริมาณการใช้ยา Fenofibrate

ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้

ภาวะไขมันในเลือดสูง

ผู้ใหญ่ ยารูปแบบ Micronised รับประทานยาปริมาณเริ่มต้นครั้งละ 67 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง หรือครั้งละ 200 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง อาจลดปริมาณเป็นครั้งละ 67 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง หรือเพิ่มเป็นครั้งละ 67 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง หรือครั้งละ 267 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อยาของผู้ป่วย ยารูปแบบ Non-micronised รับประทานยาปริมาณเริ่มต้น 200-300 มิลลิกรัม/วัน โดยแบ่งรับประทาน จากนั้นคงปริมาณการใช้ยาที่ 200-400 มิลลิกรัม/วัน สำหรับรูปแบบของยาที่มีอัตราและปริมาณการดูดซึมยามากขึ้น ให้รับประทานยาครั้งละ 40-160 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง

การใช้ยา Fenofibrate

  • ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ใช้ยานี้ในปริมาณมากกว่า น้อยกว่า หรือติดต่อกันนานกว่าที่กำหนด หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
  • ยา Fenofibrate บางยี่ห้อต้องรับประทานพร้อมอาหารเพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมยาได้ดี แต่บางยี่ห้ออาจไม่จำเป็นต้องรับประทานพร้อมอาหาร ควรใช้ยาตามคำแนะนำบนฉลาก
  • ควรใช้ยาอย่างสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา
  • รับประทานยาโดยกลืนทั้งเม็ด ห้ามหัก บด หรือเคี้ยวยา
  • ผู้ที่กำลังใช้ยาคอเลสไทรามีน ยาคอเลสทิพอล และยาโคลเซเวแลม ควรใช้ยาเหล่านี้หลังใช้ยา Fenofibrate อย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือก่อนใช้ยา Fenofibrate 4 ชั่วโมง
  • การใช้ยานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการรักษา ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์ในด้านการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือการใช้ยาอื่น ๆ อย่างเคร่งครัด
  • ระหว่างที่ใช้ยานี้ผู้ป่วยอาจต้องได้รับการตรวจเลือดเป็นประจำ และอาจต้องได้รับการตรวจการทำงานของตับและถุงน้ำดีด้วย
  • หากลืมใช้ยาตามเวลาที่กำหนด ให้ใช้ยาได้ทันที แต่หากใกล้ถึงเวลาใช้ยาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปใช้ยารอบต่อไป ห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
  • หากสงสัยว่าตนใช้ยาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
  • ควรเก็บยาไว้ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ห่างจากความร้อน แสงแดด ความชื้น และควรเก็บยาไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Fenofibrate

การใช้ยา Fenofibrate มีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย คือ ปวดศีรษะ คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดท้องไม่รุนแรง และปวดหลัง หากอาการแย่ลงหรือพบผลข้างเคียงรุนแรงต่อไปนี้ ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที

  • อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม ริมฝีปากบวม ลิ้นบวม คอบวม เป็นต้น
  • ภาวะเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อลายเสียหาย ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะไตวาย มีอาการบ่งชี้ ได้แก่ เจ็บกล้ามเนื้อโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการกดเจ็บ อ่อนเพลีย มีไข้ และปัสสาวะสีเข้ม
  • เกิดรอยช้ำง่าย มีเลือดออกผิดปกติ มีจุดสีม่วงหรือสีแดงตามผิวหนัง
  • ปวดท้องอย่างรุนแรงและปวดลามไปถึงหลัง คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว
  • เจ็บหน้าอก ไอ หายใจมีเสียงหวีด หายใจถี่ ไอเป็นเลือด
  • เจ็บ บวม รู้สึกอุ่น หรือมีรอยแดงที่ขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง
นอกจากนี้ หากผู้ป่วยพบอาการผิดปกติใด ๆ เพิ่มเติม ควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยเช่นกัน cá cược xổ số trực tuyến  baccarat live baccarat online gambling baccarat poker game online live dealer baccarat